Y2K คำฮิตบนโลก Tiktok ที่มีความหมายมากกว่าแฟชั่น

เชื่อว่าหลายคนที่เล่น Tiktok หรือสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ในช่วงนี้มักจะเห็นคำว่า Y2K ผ่านหูผ่านตากันอยู่บ่อย ๆ จนทำให้เกิดความสงสัยว่า Y2K จริง ๆ แล้วคืออะไร

ความหมายของ Y2K

Y หมายถึง Year

2K หมายถึง 2000 โดย K มาจากคำว่า Kilo แปลว่า 1000 เมื่อรวมเป็นคำว่า Y2K จึงหมายถึง ปี 2000

แฟชั่น Y2K

คำว่า Y2K ถูกใช้ในช่วงปีปลายมี 90s ถึงช่วงต้นปี 2000s ซึ่งนับว่าเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านจากยุคที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตสู่โลกที่อินเทอร์เน็ตกำลังจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตและทำให้โลกไร้พรมแดน ทำให้การแต่งกายหรือแฟชั่นในช่วงนั้นของวัยรุ่น เป็นการแต่งตัวที่เน้นสีสันสดใส เสื้อผ้ามีความแวววาว มีความสนุกในการแต่งตัวและไร้ขีดจำกัด

การแต่งตัวแบบ Y2K มักนิยมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีจัดจ้าน อาจจเป็นเสื้อครอป หรือเสื้อยืดพอดีตัวพิมพ์ลายกราฟฟิก กางเกงเอวต่ำหลวมๆ หรือกระโปรงสั้น พร้อมกับเครื่องประดับ เช่น กระเป๋าใบจิ๋ว หูฟัง แว่นตากันแดดอันใหญ่ เป็นต้น หรืออาจจะเป็นการแต่งกายที่มีความแวววาวระยิบระยับ เช่น กระโปรงทำจากหนังหรือการประดับกลิตเตอร์บนเสื้อผ้า

ทำไม Y2K ถึงกลับมาฮิตอีกครั้ง

แฟชั่น Y2K กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในรอบ 20 ปี มาจากวัยรุ่น Gen Z ที่เหมือนกับเป็นการโหยหาอดีตของวัยรุ่น Gen นี้ เนื่องจากในช่วงที่แฟชั่น Y2K ยุคแรกได้รับความนิยมนั้น ชาว Gen Z ยังเด็กเกินไปที่จะได้สัมผัสแฟชั่นเหล่านั้น พวกเขาจึงนำแฟชั่นเหล่านั้นกลับมาใส่จนได้รับความนิยมอีกครั้ง จนเกิดปรากฏการณ์สร้างคอนเทนต์ พร้อมติด #Y2Kaesthetic หรือ #Y2Kfashion บน Tiktok

Y2K ไม่ใช่แค่แฟชั่นแต่คือวิกฤตการณ์ในช่วงเวลาหนึ่ง

อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่า Y2K คือ ปี 2000 ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านยุคที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตสู่ยุคที่มีอินเทอร์เน็ตอย่างไร้พรมแดน รวมถึงการเปลี่ยนเลขปี ค.ศ.จาก199.. เป็น 2000 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการบันทึกข้อมูลและระบบเอกสารของทั้งระบบดิจิทัลและอนาล็อก เนื่องจากใช้การบันทึกปีจากเลข 4 ตัวให้เหลือเพียง 2 ตัวท้ายเพื่อประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูล

ปัญหาจะเกิดขึ้นหลังเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ.1999 เข้าสู่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ.2000 ระบบคอมพิวเตอร์จะเข้าใจว่าปี 2000 ซึ่งลงท้ายด้วย 00 เป็นปี 1900 หรือบางที่ปีค.ศ.กลายเป็น 19100 จึงทำให้ระบบการจัดเก็บข้อมูลเกิดความผิดพลาดกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความกังวลใจว่าถ้าถึงวันนั้นแล้วบางบริษัทไม่มีการแก้ไขจะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น เช่น การควบคุมเส้นทางการบินที่อาจจผิดพลาดจนทำให้เกิดเหตุเครื่องบินชนกัน เป็นต้น

ทำให้ทั้งภาครัฐรวมถึงภาคเอกชนต้องรีบแก้ปัญหาเหล่านี้กันอย่างเร่งด่วนก่อนวันที่ 1 มกราคม ค.ศ.2000 จะมาถึง โดยทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่างนำเงินจำนวนมหาศาลมาจัดการแก้ปัญหาระบบของตนเองกันอย่างเร่งด่วนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่จะตามมาได้

วิกฤตการณ์ Y2K นี้นอกจากสร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชนบางกลุ่มที่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นเมื่อก้าวข้ามจากปี 1999 เป็นปี 2000 แล้ว ความกลัวในการข้ามปีนี้ก็มีผลดีคือทำให้ทั้งภาครัฐและเอกชนได้สะสางระบบคอมพิวเตอร์ที่จัดเก็บอย่างไม่เป็นระบบให้มีระเบียบมากขึ้น และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเพราะมีการนำเงินจำนวนมหาศาลออกมาใช้เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

คะแนน SEO
กด 5 ดาวถ้าชอบบทความนี้
[Total: 1 Average: 5]