จากกระแสข่าวการโจมตีดูดเงินจากบัญชีธนาคารของในไทยนั้น มีมานานหลายเดือนแล้วนะคะ โดยข้อสรุปคือโนโจมตีผ่านมัลแวร์นั่นเองค่ะ ซึ่งมัลแวร์เหล่านั้นมีความสามารถในการอ่านและ SMS โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว คนร้ายสามารถดูหน้าจอของเหยื่อได้จากระยะไกล และควบคุมได้โดยที่เหยื่อไม่ต้องทำอะไรเลย โดยอาศัยฟีเจอร์ของโทรศัพท์ที่เปิดให้ติดตั้งแอปช่วยเหลือสำหรับคนพิการ ที่สำคัญคือประเทศไทยขาดการประสานงานกับผู้ผลิต ทำให้มัลแวร์เหล่านี้ไม่ถูกเตือนว่าเป็นซอฟต์แวร์มุ่งร้าย และมีการยืนยันแล้วนะคะ ว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้เกิดจากสายชาร์จปลอมหรือ สายชาร์จดูด / แฮกข้อมูลแต่อย่างใดค่ะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว คนส่วนใหญ่ก็ยังคงวิตกกังวลกับเรื่องสายชาร์จดูดข้อมูลกันอยู่นะคะ ดังนั้นบทความนี้ จึงได้รวบรวมข้อควรระวัง และ 8 สถานที่ควรระวังในการชาร์จโทรศัพท์มือถือมาฝากกันค่ะ
8 สถานที่ควรระวังการชาร์จโทรศัพท์มือถือ
- จุดชาร์จที่สนามบิน หรือบนเครื่องบิน
ไม่ควรนำแค่สาย USB มาเสียบที่พอร์ต USB ชาร์จมือถือ เพราะโดนล้วงข้อมูลได้ง่าย เพื่อความปลอดภัยควรนำ Adapter ของมือถือมาด้วย และเสียบผ่าน Adapter มือถือเข้ากับสาย USB มือถือก่อนชาร์จ เพื่อให้มั่นใจว่าใช้สำหรับชาร์จเท่านั้น ไม่โหลดข้อมูลมือถือ
- รถไฟ
มีพอร์ตแบบ USB ให้บริการชาร์จ แต่เสียบแล้วมีโอกาสข้อมูลรั่วไหลเหมือนกัน และไม่มีปลั๊กทั่วไปสำหรับใช้ Adapter ให้เสียบด้วย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เตรียมแบตเตอรี่สำรอง หรือ Power Bank ส่วนตัวในการชาร์จไฟด้วย
- โรงแรม
มีพอร์ต USB ในการชาร์จไฟ และมีรูปลั๊กไฟให้บริการ แต่แนะนำเสียบกับรูปลั๊กไฟปลอดภัยกว่า
- รถเช่า
หลายท่านท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือต่างจังหวัด และใช้บริการรถเช่า ก็ไม่ควรนำมือถือมาชาร์จกับรถเช่า เพราะมีโอกาสถูกขโมยข้อมูลได้เช่นกัน โดยเฉพาะนำมือถือมาเสียบกับ USB เพื่อฟังเพลงจากรายชื่อเพลงในมือถือ เสี่ยงถูกขโมยข้อมูลได้ หรือจะชาร์จด้วย adapter ชาร์จไฟมือถือของรถยนต์ จะปลอดภัยกว่า
- จุดชาร์จตามสถานที่ท่องเที่ยว
นอกจากอันตรายต่อข้อมูลในมือถือแล้ว อาจเป็นอันตรายต่อตัวคุณด้วย หากมีมิจฉาชีพมาเข้าใกล้เพื่อขโมยมือถือ ซึ่งรู้ได้หากคุณชาร์จมือถือ ณ จุดบริการชาร์จไฟฟรี
- จุดชาร์จไฟตามห้างสรรพสินค้า
หากคุณชาร์จด้วยสายชาร์จ USB เสียบกับพอร์ต USB ก็มีโอกาสที่จะถูกขโมยรายชื่อผู้ติดต่อของคุณ, อีเมล ข้อความ,เสียงรูปภาพและวิดีโอ ที่อยู่ในมือถือได้ โดยเป้าหมายของแฮกเกอร์คือ ข้อมูลการเงิน หรือรหัสของแอปธนาคารออนไลน์
- ห้องสมุด
อาจดูเหมือนเป็นพื้นที่ปลอดภัย แต่ควรหลีกเลี่ยงการเสียบอุปกรณ์มือถือ เข้ากับพอร์ต USB เพราะหากเสียบพอร์ต USB มีความเสี่ยงที่จะเกิดการถูกถ่ายโอนข้อมูลได้เช่นกัน
- ร้านกาแฟ
เป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่อาจจะเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลเช่นกัน ควรระวังการชาร์จผ่านพอร์ต USB เพื่อความปลอดภัยก็ควรจะนำ Adapter ติดตัวไปด้วย สำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือจะเป็นการดีที่สุด
ทั้งนี้ มีคำแนะนำว่า หากไม่มี Adapter ชาร์จไฟ ในการชาร์จสมาร์ทโฟน และจำเป็นต้องเสียบสาย USB เพื่อชาร์จไฟในสถานที่เสี่ยง เพื่อความปลอดภัย ให้ปิดเครื่องมือถือให้สนิท ก่อนเสียบสาย USB จะเป็นการชาร์จผ่านกระแสไฟฟ้า โดยไม่มีการโหลดข้อมูลในมือถือนะคะ
และธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย ได้ทำการแถลงข่าวถึง กรณีที่มีเหยื่อถูกโจมตีเพื่อดูดเงินออกจากบัญชีเป็นจำนวนมาก พบว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้เกิดจากสายชาร์จปลอมหรือ สายชาร์จดูด / แฮก ข้อมูลแต่อย่างใดนะคะ สาเหตุจริงๆคือเหยื่อถูกหลอกให้ติดตั้งมัลแวร์นั่นเองค่ะ
ดังนั้นทั้งสองหน่วยงานจึงออกมา แนะนำถึงวิธีการป้องกันตัวเอง และลดความเสียหาย จากการตกเป็นเหยื่อของพวก มิจฉาชีพ 5 ข้อ ดังนี้นะคะ
- ไม่คลิกลิงก์จาก SMS, LINE, หรืออีเมล ที่มีที่มาไม่น่าเชื่อถือจ
- ไม่ดาวน์โหลดโปรแกรมนอกสโตร์ทางการ เช่น App Store หรือ Google Play Store
- อัพเดตแอป Mobile Banking เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ
- ไม่ใช้โทรศัพท์ ในระบบปฎิบัติการล้าสมัย ไม่ใช้เครื่องที่ไม่ปลอดภัย เช่นถูก jailbreak
- ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้แก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว