อัพเดทความรู้เรื่องงูพิษกัด ที่คนไทยควรรู้

งูพิษรุนแรงในประเทศไทย แบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่

  1. งูที่มีพิษต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ได้แก่ งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยมและ งูทับสมิงคลา  งูเห่าและงูจงอางเป็นงูที่แผ่แม่เบี้ยได้ งูเห่าบางชนิดสามารถพ่นพิษได้ ถ้าพิษเข้าใส่ตา อาจทำให้ระคายเคืองจนตาบอดได้ นอกจากนี้มี งูสามเหลี่ยม ซึ่งมีลายดำสลับเหลือง และ งูทับสมิงคลามีลายดำสลับขาวเป็นปล้อง ส่วนงูทะเลเป็นงูที่มีพิษต่อระบบกล้ามเนื้อ ทำให้มีอาการปวดกล้ามเนื้อ และ ไตวายได้
  2. งูที่มีพิษผลต่อระบบโลหิต ทำให้เลือดไม่แข็งตัวและมีเลือดออกง่าย ได้แก่ งูแมวเซา ซึ่งพบมากทางภาคกลางและภาคตะวันออก งูกะปะ ซึ่งพบมากภาคใต้ภาคตะวันออก และภาคเหนือ ทั้ง 2 ชนิดเป็นงูสีน้ำตาล งูแมวเซามีลายรูปวงรี และงูกะปะมีลายรูปสามเหลี่ยม ส่วน งูเขียวหางไหม้ พบมากในเขตกรุงเทพมหานคร ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีตัวสีเขียวและหางสีแดง มักอาศัยบนต้นไม้ นอกจากนี้มีงูลายสาบคอแดงซึ่งมีรายงานว่าทำให้เลือดออกไม่หยุดถึงตายได้

7 วิธี ป้องกันไม่ให้โดนงูกัด

  1. ดูแลสวนรอบบ้าน อย่าให้รกรุงรังมากเกินไป
  2. ท่อน้ำทิ้งควรมีฝาปิด หรือมีตะแกรงปิดเอาไว้
  3. เลี้ยงสุนัขไว้เห่าเตือน แต่ระวังไม่ควรให้สุนัขไปสู้งู อาจพลาดโดนพิษงูได้
  4. มีเลี้ยงสัตว์ในบ้านก็ดีแต่ต้องระวัง เพราะงูอาจเข้ามาหาเหยื่อได้โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยง​ตัวเล็ก
  5. พยายามปิดรูที่รั้วบ้านตัวบ้าน หรือมีตะแกรงมีตาข่ายปิดรูต่างๆ ให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้
  6. ไม่ควรเดินในที่รกๆตอนมืดๆ
  7. ติดไฟส่องสว่างรอบบ้าน หรือ ในสวน

งูพิษ 7 ชนิด ที่คนไทยโดนกัดบ่อย

  1. งูเห่า
  1. งูจงอาง
  1. งูกะปะ
  1. งูเขียวหางไหม้
  1. งูแมวเซา
  1. งูสามเหลี่ยม
  1. งูทับสมิงคลา

ข้อควรปฏิบัติ 7 ข้อ ในกรณี​โดนงู (หรืองูพิษ)​ กัดแล้ว

  1. สำคัญที่สุด คือ ทุกคนต้องมีสติ อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก ถ้าตกใจมากเกินไปอาจมีอาการแปลกๆเยอะ ที่ไม่ได้เกิดจากพิษงูก็ได้
  2. ต้องรีบพยายามจดจำลักษณะของงู ให้มากที่สุด ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ สามารถถ่ายรูปหรือคลิปได้ก็ถ่าย (ถ้าไม่อันตราย)
  3. ไปโรงพยาบาลให้ไวที่สุด อาจเลือกใกล้ที่สุดก็ได้ ควรมีเบอร์โทรศัพท์​ของ โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือค้นหาเบอร์ไม่ยาก ในระหว่างเดินทาง ก็อาจโทรแจ้งเหตุให้แพทย์​ที่ โรงพยาบาลทราบเพื่อเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า
  4. ไม่ให้ขันชะเนาะ หรือมัดเหนือแผล เพราะไม่ช่วยกันพิษเข้าส่วนอื่นของร่างกาย ไม่ควรใช้น้ำลาย สมุนไพรไปปิดแผลหรือรอยกัด เพราะอาจปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไปได้
    ในกรณี​มัดแน่นไป ทำให้อวัยวะปลายทางขาดเลือดไปเลี้ยงได้
  5. ขยับส่วนที่โดนกัดให้น้อยที่สุด เพื่อมิให้พิษงูดูดซึมหรือแพร่ไปส่วนอื่นได้ไวขึ้น
  6. ถ้าโดนพิษงูที่บริเวณตา ควรล้างน้ำเปล่าให้มากที่สุด ถ้าโดนกัดที่ตัวก็ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดเบาๆ
  7. ในกรณีที่​เหมือนผู้ถูกกัดขยับตัวไม่ได้ หรือคล้ายเป็นอัมพาตคล้ายเสียชีวิต ให้ระวังเพราะพิษงูบางชนิดมีผลต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง คล้ายอัมพาต เช่นงูเห่า งูจงอาง แต่ยังมีชีพจรอยู่ ต้องดูแล ตามดู ระบบการหายใจต่อ ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลก่อนที่จะมีปัญหาระบบหายใจ

อ้างอิงจาก

งูมีพิษกัด

  1. งูพิษในประเทศไทย อาการต่างๆ หลังถูกงูแต่ละชนิดกัด ความรู้อื่นๆ

https://www.rama.mahidol.ac.th/poisoncenter/th/pois-cov/snake

  1. ตารางวิธีการแยกชนิดของงูพิษที่พบบ่อยในไทย

https://www.rama.mahidol.ac.th/poisoncenter/th/pois-cov/snake_T1

  1. ทำอย่างไรเมื่องูมีพิษกัด
  1. อาการบ่งบอกว่างูมีพิษกัด
  1. รวม 9 ชนิดของงูพิษในประเทศไทยที่มีความสำคัญทางสาธารณสุข

https://saovabha.org/service_saovabha/Snake-Classification

  1. งู

https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%87%E0%B8%B9

งูพิษ

https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9

  1. Snake species in Thailand

https://www.thainationalparks.com/list-of-snakes-in-thailand

  1. Common Thailand Snakes 2

https://thailandsnakes.com/thailand-snake-notes/most-common-snakes/

  1. What to do if you get bitten by a snake in Thailand
คะแนน SEO
กด 5 ดาวถ้าชอบบทความนี้
[Total: 0 Average: 0]