ศัพท์โลกคริปโตฯ ที่ต้องรู้ สำหรับนักลงทุนมือใหม่

ศัพท์คำแรกของโลกคริปโต ที่ไม่รู้ไม่ได้เลย นั่นคือ

-Cryptocurrency
Cryptocurrency คือสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้ระบบกระจายศูนย์ (Decentralized System) โดยอาศัยการเข้ารหัส (Cryptography) สิ่งนี้เป็นการเพิ่มความถูกต้องแม่นยำ และความปลอดภัยให้กับธุรกรรมทางการเงิน

-Arbitrage คริปโตฯ
Arbitrage คือ กลยุทธ์ในการทำกำไรที่มีความนิยมมากในตลาดคริปโตฯ โดยอาศัยกำไรส่วนต่างของสินค้าเดียวกันเพื่อสร้างกำไรจากส่วนต่างนั้น หรือเป็นการการทำกำไรส่วนต่างราคา ของเหรียญชนิดเดียวกันที่อยู่ในตลาดต่างกัน สั้น ๆ คือ “ซื้อถูกขายแพง” นั่นเอง

-Crypto Wallet
Crypto Wallet เป็นเครื่องมือหรือโปรแกรมที่มีหน้าที่จัดเก็บคีย์ส่วนตัวเพื่อให้เกิดความปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยในการรับ-โอนเงินดิจิทัลอีกด้วย โดย Crypto Wallet สามารถอยู่ในรูปของโปรแกรมซอฟต์แวร์ เช่น Guarda Waller ก็ได้ หรือจะเป็นรูปแบบของอุปกรณ์ที่จับต้องได้ เช่น Ledger Nano

-Exchange
แพลตฟอร์มซื้อ-ขายสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency)

-Altcoins
Altcoin เกิดจากการรวมกันระหว่าง Alternative (ทางเลือก) + coin (เหรียญ) = Altcoin (เหรียญทางเลือก) หมายถึง สกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจาก Bitcoin และทำงานอยู่บนระบบ Blockchain เช่น ETH, SHIB, BNB และ ADA

-Fiat
เงิน Fiat หรือ Fiat Money หมายถึง เงินที่เราใช้กันในชีวิตประจำวัน จับต้องได้ สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามข้อกำหนดของรัฐบาลหรือกฎหมาย เช่น THB, USD และ EURO

-All-time high / all-time low
All-time high หมายถึง ราคาสูงสุดตลอดกาลนับตั้งแต่สินทรัพย์นั้น ๆ เข้าสู่ตลาด 
All-time low หมายถึง ราคาต่ำสุดตลอดกาลนับตั้งแต่สินทรัพย์นั้น ๆ เข้าสู่ตลาด (ตรงข้ามกับ All-time high) 

-Bull Market
Bull Market หรือ ตลาดกระทิง หมายถึง ภาวะที่สินทรัพย์ในตลาดมีปริมาณการซื้อขายมาก สภาพคล่องสูง และมีความเชื่อมั่นว่าตลาดยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ทำให้ราคาสินทรัพย์มีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

-Bear Market
Bear Market หรือ ตลาดหมี หมายถึง ภาวะที่สินทรัพย์ในตลาดมีปริมาณการซื้อขายซบเซา ความเชื่อมั่นในตลาดและสินทรัพย์ต่ำ นักลงทุนมองราคาในแง่ลบ ส่งผลให้ราคาตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน 
รู้หรือไม่? Bull Market และ Bear Market อาจมีที่มาจากลักษณะการต่อสู้ของสัตว์ชนิดนั้น โดยกระทิงใช้เขาดันขึ้นเพื่อขวิด ขณะที่หมีโจมตีด้วยการใช้กรงเล็บตะปบลง

ค่า Gas
ค่า Gas หมายถึง ค่าธรรมเนียมหรือมูลค่าราคาในการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มบล็อกเชน ซึ่งค่า Gas นี้เป็นหนึ่งต้นทุนของการเทรดที่นักลงทุนห้ามมองข้าม! (อาจขาดทุนไม่รู้ตัว)

-Bitcoin Halving
Bitcoin halving หมายถึง ระบบของ Bitcoin ที่จะทำการลดจำนวนการผลิตหรือความสามารถในการขุด Bitcoin ลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะเกิดขึ้นในทุก ๆ 4 ปี

-HODL
Hold On to Dear Life หรือ HODL หมายถึงการถือเหรียญคริปโตฯ เอาไว้ในระยะเวลานานโดยไม่สนใจความผันผวนของราคา

-NFT (Non-Fungible Token)
NFT (Non-Fungible Token) แปลตรงตัวว่า โทเคนที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้ ซึ่งแอดมินขอขยายความว่า NFT คือสินทรัพย์ดิจิทัลที่เก็บข้อมูลไว้บนบล็อกเชน โดยสินทรัพย์ดังกล่าวจะไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือทดแทนกันได้ หรือก็คือมีชิ้นเดียวในโลกนั่นเอง ซึ่งต่อให้สินทรัพย์นั้นหน้าตาเหมือนกันก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีราคาเท่ากัน

-DeFi (Decentralized Finance)
DeFi (Decentralized Finance) หมายถึง บริการทางการเงินแบบไร้ตัวกลาง ทำให้เกิดการกระจายอำนาจขึ้น โดยใช้สกุลเงินดิจิทัลและดำเนินระบบด้วย Smart Contract บนเทคโนโลยี Blockchain 

-Whale 
Whale หรือ ‘วาฬ’ หมายถึง คำที่ใช้เรียกแทนผู้ถือเหรียญรายใหญ่ซึ่งถือเหรียญไว้เป็นจำนวนมาก การซื้อ-ขายของ ‘วาฬ’ นั้นมักส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาไม่ว่าในทางตรงหรือทางอ้อม เรียกได้ว่าการตัดสินใจของ ‘วาฬ’ อาจเพิ่มหรือลดความผันผวนของตลาดและสภาพคล่องได้

ต่อไป มาทำความรู้จักกับคำศัพท์ที่นักลงทุน มักใช้กันอย่างแพร่หลายดีกว่าว่ามีอะไรบ้างนะคะ คำศัพท์สุดฮิตติดหูที่สายหุ้นและสายคริปโตฯ รู้ไว้ไม่มีตกเทรนด์แน่นอนค่ะ มีอะไรบ้างลองมาดูกันดีกว่าค่ะ

  1. ติดดอย ความหมายคือ ซื้อหุ้นหรือเหรียญแล้ว ราคาปรับตัวลง จนติดอยู่บนยอดราคาที่ซื้อและไม่กล้าขายขาดทุน
  2. ขายหมู ความหมายคือ การที่เราขายหุ้นหรือเหรียญแล้ว แต่หลังจากขายแล้วราคายังปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ
  3. ตกรถ ความหมายคือ การที่เราไม่ได้ซื้อหุ้นหรือเหรียญเอาไว้ แต่ราคานั้นยังปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ
  4. ช้อน ความหมายคือ การเข้าไปซื้อหุ้นหรือเหรียญ ในขณะที่ราคาลดลงอย่างมาก
  5. ลาก ความหมายคือ การกว้านซื้อหุ้นหรือเหรียญจำนวนมากเพื่อดันราคาขึ้น
  6. ทุบ ความหมายคือ การเทขายหุ้นหรือเหรียญจำนวนมาก เพื่อกดราคาลง
  7. เม่า ความหมายคือ นักลงทุนรายย่อย ที่เปรียบเสมือนแมลงเม่าตัวเล็ก ๆ
  8. เจ้า หรือ วาฬ ความหมายคือ นักลงทุนรายใหญ่
  9. คัท ความหมายคือ การยอมขายหุ้นหรือเหรียญขาดทุน เพื่อไม่ให้ขาดทุนเพิ่มในอนาคต
  10. เด้ง ความหมายคือ ได้กำไรขึ้นเท่าตัว เช่น 2 เด้ง คือกำไร 200%

เข้าใจคำศัพท์เหล่านี้ไปบ้างแล้ว ก็อย่าลืมศึกษาหาเทคนิคและเคล็ดลับในการลงทุนให้ชำนาญก่อนนะคะ เพราะการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง อาจจะสูญเสียเงินลงทุนได้ง่ายๆเช่นกันค่ะ ดังนั้นผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจและศึกษาข้อมูล ให้ดีๆก่อน รวมทั้งเลือกตัดสินใจลงทุน ให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้กันด้วยนะคะ

คะแนน SEO
กด 5 ดาวถ้าชอบบทความนี้
[Total: 1 Average: 5]