ผู้เขียน หัวข้อ: วางเครื่องฟอกอากาศแบบไหน ให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด??  (อ่าน 17 ครั้ง)

Beer625

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9851
  • รับทำ SEO No.1 SEONo1.co.th
    • ดูรายละเอียด


ปัจจุบันการใช้งานเครื่องฟอกอากาศ [pr]นั้นกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่ใครที่เลือกแบบวางตั้งก็อยากให้วางกันในลักษณะที่เหมาะสมด้วย เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด แต่จะวางแบบไหน อย่างไร เชื่อว่ามีหลายคนที่อยากรู้อย่างที่สุด จึงไม่พลาดมีมาบอกต่อด้วยเช่นกัน

การวางเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสม เพื่อการใช้งานสมบูรณ์แบบ

1. วางเครื่องให้ห่างจากผนัง 10 – 15 ซม.

เป็นการวางในตำแหน่งที่เหมาะสมมาก ๆ นั่นคือการวางให้ห่างจากผนัง หรือสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ให้ได้ 10 – 15 ซม. เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด และไม่เกิดคราบฝุ่นที่เครื่องได้ง่ายด้วย เนื่องจากอากาศที่ทำงานไปปะทะผนังนานเกินไป

2. ขนาดห้องกับขนาดเครื่องต้องเหมาะสม

ขนาดเครื่อง Air Purifier [pr] กับขนาดห้องจำเป็นต้องเหมาะสมกัน เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยขนาดเครื่องที่มีขนาดเล็กจำเป็นต้องใช้กับห้องที่มีขนาด 20 ตารางเมตร เครื่องฟอกขนาดกลางใช้กับห้องที่มีขนาด 20 – 40 เมตร เครื่องฟอกขนาดใหญ่ใช้กับห้องที่มีขนาด 40 – 140 ตารางเมตร

3. ไม่แนะนำให้วางที่หัวเตียง

ไม่แนะนำอย่างที่สุดกับการวางเครื่องฟอกเอาไว้ที่หัวเตียง เพราะไม่ใช่แค่เสียงจะดังรบกวนเท่านั้น แต่เครื่องจะไปดูดเอาอากาศมาวน ๆ อยู่รอบตัวเรา ทำให้เกิดฝุ่นผ่านตัวเราตามไปด้วย

4. ไม่แนะนำให้วางที่หน้าประตูห้องน้ำ

เป็นอีกบริเวณที่ไม่แนะนำให้วางเครื่องฟอกเอาไว้เลย นั่นคือหน้าห้องน้ำ เพราะไม่ใช่เรื่องกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ แต่เป็นการดูดเอาความชื้นของห้องน้ำมาปล่อยไว้ในห้องเราไปด้วย จะกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคเกิดปัญหาสุขภาพตามไปด้วย

5. การวางให้ได้ระยะกับแอร์

เพราะแอร์จะมีแรงดูดอากาศมากกว่าเครื่องกรองอากาศ [pr] จึงไม่เหมาะที่จะวางเอาไว้ใต้แอร์ เพราะอากาศที่ยังไม่ทันได้ฟอกจะไปอยู่ในแอร์ที่ดูดเอาขึ้นไปแทน การวางควรวางให้ตรงข้ามกับแอร์เลย เพื่อให้อากาศที่ผ่านเครื่องฟอกเรียบร้อยแล้วถูกแอร์ดูดเข้าเครื่อง แล้วปล่อยอากาศเย็น ๆ ออกมาแทน

ใด ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องการวางเครื่องฟอกอากาศที่ควรให้ความสำคัญเท่านั้นแต่เรื่องของแผ่นกรองภายในเครื่องก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น แผ่นกรอง HEPA แผ่นกรองหยาบ แผ่นกรองคาร์บอนใด ๆ ก็ต่างมีอายุการใช้งานตามระยะเวลาของตัวเองซึ่งแตกต่างกัน

ดังนั้นจำเป็นต้องทำความสะอาด และเปลี่ยนแผ่นกรองตามอายุการใช้งานเสมอ เพราะบางเครื่องฟอกก็ไม่มีเซนเซอร์เตือนเมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยน ก็จะกลายเป็นว่าทำงานกรองอากาศได้ไม่เต็มที่ เป็นอันตรายต่อร่างกายเราเองได้ ต่อไปนี้การวางเครื่อง และการดูแลเครื่องจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด