ผู้เขียน หัวข้อ: ศีลย่อมให้สมบัติในโลกนี้และโลกหน้า เครื่องประดับใดจะงดงามเช่นกับผู้ที่มีศีลย่อม  (อ่าน 23 ครั้ง)

วันเสาร์ 20 มกราคม 2566

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 275228
  • รับทำ SEO No.1 SEONo1.co.th
    • ดูรายละเอียด
เป็นพระธรรมเทศนาที่แสดงเนื้อความลุ่มลึกลงไปโดยลําดับ เพื่อขัดเกลาอัธยาศัยของผู้ฟังให้ประณีตยิ่งขึ้น จนจิตของ บุคคลนั้นพร้อมที่จะเข้าใจในสัจธรรม จึงทรงแสดงอริยสัจธรรม ๔ [pr] อัน เป็นแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา อนุปุพพิกถามี ๕ ประการ คือ
อนุปุพพิกถา ๕
๑. ทานกถา
กล่าวถึงการให้ การเสียสละ อันเป็นเหตุแห่ง ความสุขทั้งหลาย เป็นบ่อเกิดแห่งสมบัติทั้งหลาย เป็นที่ตั้งแห่งโภคะ ทั้งหลาย ทานย่อมให้สวรรค์สมบัติ พรหมสมบัติ จักรพรรดิสมบัติ สาวกบารมีญาณ ปัจเจกโพธิญาณ อภิสัมโพธิญาณ ทานจึงเปรียบดุจ แผ่นดินใหญ่ อ่านต่อ ทาน [pr]
๒. สีลกถา
กล่าวถึงความประพฤติที่ดีงาม ศีลย่อมให้สมบัติในโลกนี้และโลกหน้า เครื่องประดับใดจะงดงามเช่นกับผู้ที่มีศีลย่อมไม่มีกลิ่นใดจะหอมฟังทั้งตามลมและทวนลม เช่น กลิ่นของผู้มีศีลย่อมไม่มี พระพุทธองค์จึงตรัสศีลไว้ในลําดับต่อจากทาน อ่านต่อ ศีล [pr]
๓. สัคคกถา
เรื่องสวรรค์ กล่าวถึงทิพยสุขทิพยสมบัติที่น่าปรารถนาอันจะพึงได้รับ จากผลแห่งทานและศีลที่กระทําแล้ว ย่อมได้ในสวรรค์ พระพุทธองค์จึงทรงแสดงสัคคกถาไว้ในลําดับต่อจากศีล อ่านต่อ สวรรค์ [pr]
๔. กามาทีนวกถา
พระพุทธองค์ตรัสว่า แม้ความสุขในสวรรค์ ก็ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ไม่ควรยินดีพอใจเพียงแค่สวรรค์ เปรียบเหมือนบุคคลประดับช้างให้งดงามแล้ว กลับตัดเอางวงของช้างไป จึงแสดงโทษ และความต่ำทราม ความเศร้าหมองของกามว่า กามทั้งหลายมีสุขน้อย มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก พระพุทธองค์จึงตรัสกามาที่นวกถา ไว้ในลําดับต่อจากสวรรค์ อ่านต่อ โทษของกาม [pr]
๕. เนกขัมมานิสังสกถา
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเรื่องของทาน ศีล สวรรค์ และโทษของกามทั้งหลายแล้ว ทรงแสดงอานิสงส์ ของการออกจากกาม ชี้แจงให้เห็นคุณของเนกขัมมะ คือการออกบวช เพื่อปฏิบัติให้ถึงธรรมอันเป็นที่สิ้นทุกข์ ซึ่งจักเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ทั้งโลกนี้และโลกหน้า อ่านต่อ การออกจากกาม [pr]
อริยสัจธรรม ๔
เมื่อทรงทราบว่าบุคคลนั้น มีจิตที่ปราศจากกิเลส มีจิตที่ปราศจากนิวรณ์ คือ กามฉันทนิวรณ์ เป็นต้น มีจิตที่เบิกบานผ่องใส ประกอบด้วยปีติและปราโมทย์ สมบูรณ์ด้วยศรัทธาในสัมมาปฏิบัติแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงประกาศอริยสัจธรรม ๔ [pr] ประการ ที่พระองค์ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง คือ ทุกขอริยสัจ ทุกขสมุทยอริยสัจ ทุกขนิโรธ อริยสัจ และ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ เพื่อให้บุคคลนั้นพิจารณา เห็นสัจธรรม ตรัสว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
เมื่อบุคคลนั้นพิจารณา ตามกระแสแห่งพระธรรมเทศนา ประจักษ์แจ้งธรรมนั้นแล้วด้วยตนเอง บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันบุคคล ถึงความเป็นผู้แกล้วกล้า ไม่ต้องเชื่อฟังคําสอนของผู้อื่นอีก นอกจากคําสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอแสดงตนเป็นอุบาสกผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ หรือขอบรรพชาอุปสมบทในที่สุดนี้ เป็นพระมหากรุณาคุณที่พระพุทธองค์ทรงมีต่อคฤหัสถ์ ผู้มีอุปนิสัย ที่จะได้บรรลุธรรม (ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒/๑ หน้า ๖๕-๗๐) อ่านต่อ อริยสัจธรรม ๔ [pr]
อ่านเพิมเติ่ม [pr]
บรรลุนิพพาน บรรลุธรรม ดวงตาเห็นธรรม ประจักษ์แจ้งพระนิพพาน มรรคผลนิพพานมีจริง [pr]อนุปุพพิกถา ๕ และ อริยสัจ ๔ การศึกษาตามลำดับลุ่มลึกลงสู่การพ้นทุกข์ [pr]๖ ขั้นตอนสู่การบรรลุนิพพาน-guideline [pr]นิพพาน [pr]ธาตุ [pr]โพชฌงค์ [pr]อายตนะ [pr]ขันธ์ [pr]โพธิปักขิยธรรม [pr]สังโยชน์ [pr]ไตรลักษณ์ [pr]ปฏิจจสมุปบาท [pr]อินทรีย์ [pr]อริยสัจ ๔ [pr]กรรม [pr]วัฏฏะ [pr]
วิวัฏฏะ [pr]มหาสุญญตาสูตร [pr]อรูปพรหมภูมิ ๔ [pr]รูปพรหมภูมิ ๑๖ [pr]อบายภูมิ ๔ – เดรัจฉานภูมิ [pr]อบายภูมิ ๔ – อสุรกายภูมิ [pr]อบายภูมิ ๔ – เปตภูมิ [pr]อบายภูมิ ๔ – นรกภูมิ [pr]กามสุคติภูมิ ๗ – สวรรค์ ๖ [pr]ภพภูมิของสัตว์โลก ๓๑ ภูมิ [pr]วัฏสงสาร สังสารวัฏ สงสารวัฏ [pr]วิสุทธิ ๗ [pr]
มัคคสมังคี มรรคสมังคี [pr]บันได ๑๐ ขั้น สู่อรหันต์ [pr]สติปัฏฐาน ๔ [pr]วิปัสสนากัมมัฏฐาน [pr]สมถกัมมัฏฐาน [pr]วิปัสสนาญาณ ๙ [pr]วิปัสสนาญาณ ๑๖ [pr]มรรคมีองค์ ๘ [pr][url=https://www.nirvanattain.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%