เภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึง ภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังมั่นใจจะเติบโตต่อเนื่อง จากกำลังซื้อของประชาชนในสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นสินค้าจำเป็นเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต ประกอบกับได้รับอานิสงส์มาตรการของรัฐที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชน รวมทั้ง การปรับกลยุทธ์ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนิว นอร์มอล ทั้งการขยายสาขาใหม่ รวมทั้งการนำสินค้าที่จำเป็นเข้ามาจัดจำหน่ายเพิ่มเติม สนับสนุนแนวโน้มธุรกิจ
ซื้อหวยออนไลน์ [pr]ในไตรมาส 3/64 ไม่ทำให้ผิดหวัง จากครึ่งปีแรกที่ถือว่าประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของยอดขายและกำไร พร้อมปรับเป้าหมายรายได้ปี 64 ให้สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15-20% จากต้นปีวางไว้จะเติบโต 10-15%
ทั้งนี้ แผนการขยายสาขาปี 64 ถือว่าประสบความสำเร็จตามที่วางไว้ ในช่วง 8 เดือนแรกเปิดสาขาใหม่เรียบร้อยแล้ว 3 สาขา สนับสนุนให้ปัจจุบัน ธนพิริยะมี 35 สาขา ครอบคลุมจังหวัดเชียงราย จำนวน 28 สาขา เชียงใหม่ 2 สาขา และพะเยา 5 สาขา และกำลังดำเนินการเปิดสาขาใหม่อีก 3 สาขา คือ ในจังหวัดเชียงราย 2 สาขา และจังหวัดเชียงใหม่ 1 สาขา ที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดจะเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาสที่ 4 ปี 64 นี้ สนับสนุนสิ้นปีมี 38 สาขา ซึ่งเพิ่มจากแผนเดิม 1 สาขา
“ธนพิริยะ เราเป็นร้านค้าปลีกท้องถิ่นของคนไทย ที่มีแผนขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ในโซนภาคเหนือตอนบน โดยปัจจุบันเราได้ดำเนินมาจนถึงสาขาที่ 35 แล้ว ซึ่งสาขาล่าสุดเปิดในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาตั้งอยู่ที่ อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย เพื่อให้บริการประชาชนภายใต้สโลแกน “ราคาถูกจริง ช้อปปิ้งถูกใจ อยู่ใกล้บ้านคุณ” และยังมีแผนที่จะเดินหน้าต่ออีก 3 สาขาที่เตรียมจะเปิดให้บริการภายในปีนี้ โดยสาขาใหม่ที่เปิดให้บริการไปแล้วนั้นจะเข้ามาสนับสนุนการเติบโตของยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง และปี 65 รวมไปถึงการเตรียมขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ ปรับตัวสู้สถานการณ์โควิด-19 และการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ภาพรวมยอดขายทั้งปีมีแนวโน้มทำได้ดีกว่าเป้า และคงความสามารถในการทำกำไรที่ดี ตอกย้ำความสำเร็จของร้านค้าปลีกท้องถิ่นคนไทยที่มีการเติบโตในทุกๆ ปี” เภสัชกรหญิงอมร กล่าว
อย่างไรก็ดี ภาพรวมเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงรายและพื้นที่โซนภาคเหนือ เริ่มกลับมาฟื้นตัวตามสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่อนคลายลง รวมถึงการคลายล็อกดาวน์ ประชาชนเริ่มมีการเดินทาง และเริ่มมีการจับจ่ายใช้สอย สนับสนุนภาพรวมยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีก่อน พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด ควบคู่การเดินหน้าช่วยเหลือสังคม ในการให้บริการสินค้าผ่านการร่วมโครงการต่างๆ ของรัฐ เช่น รถโมบายพาณิชย์
ด้านผลประกอบการครึ่งปีแรก ธนพิริยะทำรายได้จากการขายจำนวน 1,356.45 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 27.78% กำไรสุทธิอยู่ที่ 100.96 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 69.08% มีอัตรากำไรขั้นต้น 16.96% อัตรากำไรสุทธิ 7.40%
